Botox
ใครมีปัญหากรามใหญ่ ริ้วรอยร่องลึก ยกมือขึ้น ถึงจะเป็นแพทย์ชะลอวัยแต่ปัญหาแบบนี้หมอเคนเองก็มีเหมือนกันนะครับ ยิ่งอายุใกล้เลข 3 ก็ยิ่งเห็นได้ชัด ดังนั้นหมอเคนก็เลยต้องเติมโบอยู่ตลอด เพื่อไม่ให้หน้าแก่เกินกว่าวัย แถมยังได้ใบหน้าวีเชฟอีกด้วยนั่นเอง บทความนี้หมอเคนจะพาทุกคนไปทำความรู้กับเจ้าโบท็อกซ์กันว่ายี่ห้อไหนเป็นยังไง แก้ปัญหาไหนได้บ้างไปอ่านกันเลยค้าบ
Slide 1 HeadingLorem ipsum dolor sit amet consectetur adipiscing elit dolorClick Here
Botox คืออะไร?
โบท็อกซ์ ทำมาจากสารพิษที่มีชื่อเรียกว่า Botulinum Toxin A ซึ่งสกัดมาจากแบคทีเรีย ออกฤทธิ์โดยทำหน้าที่ยับยั้งสารสื่อประสาท ทำให้กล้ามเนื้อในบริเวณที่ได้รับสารนี้ทำงานน้อยลง หากฉีดบริเวณกรามก็จะทำให้กล้ามเนื้อกรามอ่อนแรง ฝ่อลีบ กรามจึงดูเล็กเรียวลงหลังฉีด หากฉีดในบริเวณที่มีริ้วรอยก็จะทำให้กล้ามเนื้อแสดงสีหน้าทำงานน้อยลง ส่งผลให้ใบหน้าดูตึงกระชับ ริ้วรอยดูลดเลือนลงนั่นเอง
Botox ช่วยอะไรได้บ้าง?
- ลดกราม เนื่องจากโบท็อกซ์จะทำให้กล้ามเนื้อบดเคี้ยวทำงานลดน้อยลง ดังนั้นกล้ามเนื้อในบริเวณกรามจึงฝ่อเล็กลง ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูเรียวมากขึ้น คนไข้บางคนยังฉีดโบท็อกซ์เพื่อรักษาอาการนอนกัดฟันอีกด้วย
- ลดริ้วรอย โดยการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปที่กล้ามเนื้อมัดเล็กที่ใช้แสดงสีหน้า จะทำให้กล้ามเนื้อเหล่านั้นทำงานได้น้อยลง ส่งผลให้ผิวด้านบนบริเวณที่ฉีดดูเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยดูลดเลือนลง
- ยกกระชับใบหน้า หรือการลิฟกรอบหน้านั่นเอง การฉีดโบท็อกซ์ลักษณะนี้จะเป็นการฉีดตัวยาเข้าไปที่แนวกรอบหน้า ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ใต้ชั้นผิวหดตัว กรอบหน้าจึงดูชัดเป๊ะหลังฉีด
ฉีด Botox ตรงไหนได้บ้าง?
- รอยย่นหว่างคิ้ว
- รอยย่นหางตา
- รอยย่นหน้าผาก
- รอยย่นคาง
- ลดกราม
- ลิฟกรอบหน้า
- เก็บปีกจมูก
- รัดแกนจมูก
- รอยย่น Bunny Line
- ลดเหงื่อรักแร้
- ลดน่อง
- ดีดปลายจมูก เทคนิคพิเศษเฉพาะ Kalm Clinic เท่านั้น
ฉีด Botox ยี่ห้อไหนดี?
สำหรับการเลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ก็ควรเลือกจากปัญหาที่เราอยากจะแก้เป็นหลัก เพราะแต่ละตัวก็มีจุดเด่นจุดด้อยไม่เหมือนกัน ปัจจุบันมีโบท็อกซ์หลายยี่ห้อที่วางจำหน่ายในท้องตลาด ที่ Kalm Clinic จึงได้คัดสรรโบคุณภาพหลากหลายสัญชาติที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป พร้อมเสิร์ฟความสวยถึง 4 ยี่ห้อ ได้แก่
Allergan
โบท็อกซ์ยี่ห้อแรกของโลก เรียกได้ว่าเป็นต้นตำรับโบท็อกซ์ทุกยี่ห้อ ผลิตจากสหรัฐอเมริกา จุดเด่นคือยากระจายตัวแคบ ฉีดแล้วแม่นยำ อยู่ได้นาน ดังนั้นจึงสามารถแก้ปัญหาริ้วรอยเฉพาะจุดได้ดีมาก
Dysport
โบเกรดพรีเมียมจากอังกฤษ จุดเด่นคือยากระจายตัวได้กว้างมาก ดังนั้นจึงเหมาะกับการฉีดในบริเวณที่กว้าง เช่น ลดน่อง ลดริ้วรอยหน้าผาก ลดเหงื่อรักแร้ ลดกลิ่นตัว ลิฟกรอบหน้า เห็นผลรวดเร็ว แต่ไม่แนะนำให้ฉีดในบริเวณแคบ ๆ เพราะอาจทำให้ใบหน้าบริเวณนั้นดูตึงเกินไป
Nabota
โบสัญชาติเกาหลีตัวเดียวที่ผ่าน อย. อเมริกา นิยมฉีดในไทยเพราะราคาเบา ส่วนเนื้อของโบยี่ห้อนี้ก็เบา บาง ฉีดแล้วสบายหน้าเช่นกัน สามารถฉีดได้ทั้งกรามและริ้วรอย
Aestox
เป็นโบที่ผลิตจากประเทศเกาหลี แต่มีจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าหมดปัญหาเรื่องยาหิ้วจากจีน ตัวนี้มีราคาสบายกระเป๋า สามารถฉีดได้ทั้งกราม ริ้วรอย และปรับรูปหน้าวีเชฟเช่นกัน
Botox แท้เช็คยังไง?
เนื่องจากปัจจุบันหลาย ๆ คนนิยมฉีดโบมาก ทำให้มีของปลอมออกมาวางขายเกลื่อนไปหมด ดังนั้นก่อนฉีดก็ควรจะเช็คให้มั่นใจก่อนว่าสิ่งที่เรากำลังจะฉีดเข้าไปเป็นของแท้ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน โดยสิ่งที่ควรสังเกตก่อนฉีดโบทุกยี่ห้อ ได้แก่
- ฝากล่องปิดสนิท ไม่มีรอยแกะซีล
- มีเลข อย. แสดงด้านข้างกล่อง
- หากยี่ห้อนั้นมี QR Code ต้องสามารถขูดและสแกนเพื่อตรวจสอบของแท้ได้
- มีเลขวันเดือนปีที่ผลิต วันเดือนปีที่หมดอายุ และเลข Lot. แสดงบนกล่อง
- ตัวยาเป็นผงเคลือบอยู่ในขวด ดังนั้นก่อนฉีดต้องผสมน้ำเกลือต่อหน้าทุกครั้ง
โดยวิธีที่หมอเคนเล่าไปข้างบนเป็นวิธีพื้นฐานสำหรับการเช็คโบทุกยี่ห้อ ซึ่งทุกคนสามารถเช็คทุกขั้นตอนแบบนี้ได้ที่ Kalm Clinic ทีนี้เรามาะเจาะลึกกันทีละยี่ห้อดีกว่าค้าบว่าแต่ละตัวควรสังเกตอะไรบ้าง
Allergan
- เลข Lot. บนกล่องและขวดตรงกัน สามารถโทรเช็คเพิ่มเติมได้ที่ Allergan Thailand
- มีซีลใสบนกล่อง
- สติ๊กเกอร์โฮโลแกรมสีรุ้งข้างขวด ระบุคำว่า “ALLERGAN”
Dysport
- เลข Lot. บนกล่องและขวดตรงกัน สามารถโทรเช็คเพิ่มเติมได้ที่ Galderma
- เปิดกล่องได้จากด้านหน้า
Nabota
- มีสติกเกอร์โฮโลแกรมสีทอง “Montana Marketing” ซีลบนกล่อง
- ฉลากข้างขวดระบุบริษัทจัดจำหน่าย “Distributed by Montana Marketing”
- สติกเกอร์โฮโลแกรมสีเงินข้างขวด ระบุคำว่า “DW”
- ส่องไฟแถบสีทองข้าง QR Code แล้วเห็นเป็นคำว่า “MN”
- สแกน QR Code แล้วข้อมูลตรงกับข้างกล่อง
Aestox
- เลข Lot. บนกล่องและขวดตรงกัน สามารถโทรเช็คเพิ่มเติมได้ที่บริษัทเอสเทค ฟาร์มา จำกัด
- สแกน QR Code แล้วข้อมูลตรงกับข้างกล่อง
- เปิดกล่องได้จากด้านข้าง
อายุแค่ไหนถึงจะเริ่มฉีดโบได้?
ปัจจุบันมีงานวิจัยหลายชิ้นรองรับว่าการฉีดโบก่อนอายุ 30 จะทำให้หน้าเด็กก่อนวัยอันควร เหมือนเป็นการป้องกันริ้วรอยก่อนที่มันจะเกิด โดยการฉีดโบจะเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อที่เป็นสาเหตุของริ้วรอยทำงานลดลง ยิ่งฉีดโบตั้งแต่อายุยังน้อย
ก็จะช่วยให้กล้ามเนื้อเหล่านั้นทำงานลดลงเรื่อย ๆ
ดังนั้นเมื่ออายุเลย 30 ปีไปแล้ว ริ้วรอยก็จะยังไม่มา เพราะกล้ามเนื้อมัดนั้นขยับน้อยนั่นเอง หมอเคนจึงอยากแนะนำให้ทุกคนเริ่มฉีดริ้วรอยตั้งแต่ตอนนี้ ทั้งคนที่เริ่มมีริ้วรอยเกิดขึ้นบ้างแล้วหรือยังไม่มีริ้วรอยเลยก็ได้
เพราะการฉีดโบป้องกันไว้ก่อนจะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยออกไปได้นั่นเองค้าบ
ขั้นตอนการฉีด Botox
ก่อนการฉีดโบท็อกซ์ คุณหมอจะประคบน้ำแข็งบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 10 วินาทีหรือจนกว่าคนไข้จะรู้สึกเย็น หลังจากนั้นจะค่อย ๆ เดินตัวยาเข้าไปในบริเวณดังกล่าว รวมแล้วขั้นตอนทุกอย่างใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที เป็นหัตถการที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว ที่สำคัญยังไม่เจ็บตัวอีกด้วยครับ
ขั้นตอนการดูแลตัวเองหลังฉีด Botox
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 12 ชั่วโมงเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน
- งดแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง หรืออาหารที่มีโซเดียมสูงอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการบวม
- งดล้างหน้าอย่างน้อย 4 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเคลื่อนตำแหน่ง
- สามารถทำหัตถการอื่น ๆ ได้หลังฉีด 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
ฉีด Botox กี่วันเห็นผล?
หลังฉีดจะเห็นผลทันทีประมาณ 30% และจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 1 เดือน โดยในช่วงสัปดาห์แรกอาจมีอาการปวดเมื่อยเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด โดยเฉพาะเวลาเคี้ยวข้าว